Google launches Antigravity, the ultimate AI IDE for devs!

Table of Contents

  1. 🤔 มันคืออะไร? (So, What Exactly is Antigravity?)
  2. ✨ ต่างจาก Copilot / Cursor ยังไง? (How is it Different?)
  3. 🎯 เหมาะกับใครบ้าง? (Who is This For?)
  4. ⚠️ ข้อควรรู้และสิ่งที่ต้องจับตา (Heads-Up & Things to Watch)
  5. 📝 ข้อมูลสำคัญ (The Essentials)

Google DeepMind ปล่อยของเล่นใหม่มาอีกแล้ว! 🔥 ชื่อว่า Antigravity เป็น Agentic development platform ตัวใหม่ที่น่าสนใจมาก ๆ เห็นแล้วต้องรีบมาแชร์เลย มีใครไปลองเล่นกันมาแล้วบ้าง?

🤔 มันคืออะไร? (So, What Exactly is Antigravity?)

Antigravity คือ IDE เต็มรูปแบบ ไม่ใช่แค่ plugin ที่เราติดตั้งเพิ่ม ตัว IDE run อยู่บนเครื่องเราแบบ local เลย (แต่ยังต้องต่อเน็ตเพื่อเรียกใช้ AI Model นะ) ที่สำคัญคือมันเป็น fork ของ VS Code ทำให้หน้าตาและฟีลลิ่งการใช้งานคุ้นเคยมาก ๆ แถมตอนเปิดครั้งแรกยัง import settings จาก VS Code หรือ Cursor มาได้เลย ไม่ต้องเริ่มใหม่

แต่หัวใจหลักของมันคือแนวคิดแบบ “agent-first” ทีมงานเบื้องหลังบอกว่าที่ตั้งชื่อ Antigravity ก็เพราะอยากให้การพัฒนา software โดยเฉพาะแบบ agentic development มัน “ไร้น้ำหนัก” (weightless) และใช้ง่ายที่สุด แทนที่เราจะคอยรับแค่ code completion จาก AI แต่ Antigravity จะให้เราทำงานร่วมกับ AI Agent เพื่อวางแผนและสร้าง software ทั้งชิ้นเลย เหมือนมี junior software developer เก่ง ๆ มาช่วยเราวางแผนและเขียนโค้ดให้จริง ๆ

HOME

✨ ต่างจาก Copilot / Cursor ยังไง? (How is it Different?)

Antigravity ไม่ได้มาแข่งเรื่อง code completion แต่พยายามเปลี่ยนวิธีที่เราทำงานกับ AI เลย จากการเป็น ‘นักบินผู้ช่วย’ (co-pilot) มาเป็นการสวมบทบาท ‘สถาปนิก’ (architect) ที่คอยคุมทีม agent

LOGO

  • Real Agents, Not Just Autocomplete ไม่ใช่แค่ช่วยเติมโค้ด แต่ Agent ของ Antigravity สามารถสร้างเอกสาร implementation plan เพื่อวางแผนงานทั้งหมด, เขียนโค้ดตามแผน, รันคำสั่งใน terminal เพื่อติดตั้ง dependencies หรือ start server, และที่เด็ดสุดคือมันมี browser ในตัวที่มันควบคุมได้เองเพื่อ ทดสอบและตรวจสอบความถูกต้องของงานตัวเอง! (เวลา agent ใช้งาน browser จะมีขอบสีฟ้าเรืองแสงขึ้นมา) ซึ่งภาพ screenshot หรือวิดีโอ screen recording จาก browser นี่แหละ ที่กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของรายงาน walkthrough ทำให้เราเห็นภาพชัดเจนและเชื่อใจได้ว่า agent ทำอะไรไปบ้าง

DIAGRAM

  • Asynchronous & Multi-Agent Workflow Antigravity มีสิ่งที่เรียกว่า “Agent Manager” ที่ทำงานเหมือน inbox อีเมลเลย เราสามารถสั่งงาน agent หลาย ๆ ตัวให้ทำงานพร้อมกันได้แบบขนาน (parallel) จะเป็นคนละ task หรือจะให้ทำ คนละ project ไปเลยก็ได้ เราแค่สั่งงานทิ้งไว้ (fire and forget) แล้วก็หันไปโฟกัสงานอื่นต่อได้เลย agent จะทำงานของมันไปใน background จัดการ project หลาย ๆ อย่างได้พร้อมกันในหน้าจอเดียว

MULTI_AGENT ONE_AGENT

  • Full Transparency & Collaboration ทุกอย่างที่ agent ทำจะถูกบันทึกเป็น “Artifacts” ไม่ว่าจะเป็น implementation plan ที่ละเอียดมาก ๆ หรือรายงานสรุปงานหลังทำเสร็จที่เรียกว่า walkthrough จุดที่สำคัญมากคือ เราสามารถเข้าไปตรวจแผนงาน (plan) และใส่ comment เพื่อปรับแก้หรือให้แนวทางเพิ่มเติมได้ ก่อนที่ agent จะเริ่มเขียนโค้ด เหมือนเรากำลังทำ code review กับเพื่อนร่วมทีมที่เป็นคนจริง ๆ

ARITFACT

ด้วยความสามารถในการทำงานเบื้องหลังแบบนี้ ทำให้ Antigravity ตอบโจทย์ Devs ที่มีสไตล์การทำงานต่างกันมาก

🎯 เหมาะกับใครบ้าง? (Who is This For?)

  • 🧑‍💻 สำหรับ Solo Devs และ Startup Founders การสั่ง agent หลาย ๆ ตัวให้ทำงานพร้อมกันได้แบบ asynchronous ถือเป็น productivity boost มหาศาล เหมือนเรามีทีมผู้ช่วยคอยทำ research, แก้บั๊ก, หรือสร้างฟีเจอร์เล็ก ๆ ให้ใน background ในขณะที่เราสามารถโฟกัสกับงาน architect หรือ business logic หลักได้เต็มที่
  • 🎓 สำหรับผู้เริ่มต้นและ New Devs Artifacts อย่าง implementation plan และ walkthrough เป็นเครื่องมือเรียนรู้ชั้นยอดเลย มันทำให้เราเห็นกระบวนการคิดและวางแผนทั้งหมดแบบ step-by-step ว่ากว่าจะมาเป็นโค้ดได้ AI มันวางแผนและแก้ปัญหาที่ซับซ้อนยังไง ถือเป็นการเรียนรู้จาก best practice ของ AI ได้ดีมาก

⚠️ ข้อควรรู้และสิ่งที่ต้องจับตา (Heads-Up & Things to Watch)

  • Credit ของ Free Preview มีจำกัดมาก อันนี้ต้องบอกกันตรง ๆ ตัว Free Preview ตอนนี้มี credit ให้ค่อนข้างจำกัดมาก ๆ หลายคนใน community เจอปัญหาใช้ได้ไม่กี่ prompt ก็หมดแล้ว และยังไม่มีช่องทางให้จ่ายเงินเพิ่มด้วย อาจจะต้องรอ Plan แบบเสียเงินออกมา
  • เป็น VS Code Fork ที่มีข้อแม้ แม้จะเป็น fork ของ VS Code แต่ Antigravity ใช้ Extension Marketplace ของ Open VSX ไม่ใช่ของ Microsoft โดยตรง แปลว่า extension บางตัวอาจจะไม่มี, เป็นเวอร์ชันเก่า, หรืออาจมีประเด็นเรื่องความปลอดภัยได้ เป็นจุดที่ต้องพิจารณาเลยสำหรับคนที่พึ่งพา extension เยอะ ๆ

📝 ข้อมูลสำคัญ (The Essentials)

  • สถานะตอนนี้เป็น Free Public Preview
  • ใช้ได้ทั้งบน Windows, macOS, และ Linux
  • เบื้องหลังใช้โมเดล Gemini 3 Pro (และทีมงานบอกว่าอนาคตจะรองรับโมเดลอื่น ๆ อย่าง Claude และอาจรวมถึงโมเดลจาก OpenAI ด้วย)